วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

เงาะ

ผลไม้ไทย
เงาะ ( Rambutan )
ลักษณะ/พันธุ์ เงาะที่พบในประเทศไทย มี 2 พันธุ์ใหญ่ๆ คือ
1. พันธุ์โรงเรียน เป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดีเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาสูงกว่าเงาะพันธุ์สีชมพู ผิวสีแดงเข้มโคนขนมีสีแดง ปลายขนมีสีเขียว เนื้อหนา แห้ง และล่อนออกจากเมล็ดได้ง่าย ตอบสนองต่อปุ๋ยได้ดี เมื่อขาดน้ำในช่วงผลอ่อนผลจะแตกหรือหล่นได้มากกว่าเงาะพันธุ์สีชมพู
2.พันธุ์สีชมพู เป็นพันธุ์ที่ปลูกง่าย มีการเจริญเติบโตดี ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ ให้ผลดกมีผิวและขนเป็นสีชมพูสด เนื้อหนา ฉ่ำน้ำ บอบช้ำง่าย ไม่ทนทานต่อการขนส่ง
คุณค่าทางโภชนาการ

เงาะเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีขายกันอยู่ทั่วไป เป็นผลไม้รสหวานและอมเปรี้ยว รับประทานเงาะสดสามารถแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้ผลดี นอกจากนี้ ผลเงาะนำมาต้ม นำน้ำที่ได้มาเป็นยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบในช่องปาก และโรคบิดท้องร่วง มีข้อควรระวัง คือเม็ดในของเงาะมีพิษแม้ว่าจะเอาไปคั่วจนสุกแล้ว แต่ถ้ารับประทานมากเกินไปจะมีอาการปวดท้อง เวียนศรีษะมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ดังนั้นไม่ควรจะรับประทานเม็ด
การนำไปใช้ประโยชน์

เงาะสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นการเพิ่มความหลากหลายให้ผู้บริโภคและที่สำคัญเป็นการเพิ่มมูลค่าของเงาะให้มีราคาสูงขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วไม่สามารถเก็บได้นาน เพราะเนื้อผลจะเละและมีน้ำหวานไหลเยิ้ม โดยเฉพาะในปีใดที่ผลผลิตเงาะออกสู่ท้องตลาดมาก ราคามักตกต่ำ การนำมาแปรรูปเป็นการแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำได้ เช่น การทำเป็นเงาะแช่อิ่มอบแห้ง การทำเงาะกระป๋อง เงาะกวนเปลือก ฯลฯ เป็นต้น

ลิ้นจี่

ผลไม้ไทย
ลิ้นจี่ ( Lychee )
ลักษณ/พันธุ์

ลิ้นจี่พบในประเทศไทยมี 2 สายพันธุ์โดยแบ่งตามพื้นที่การปลูก ดังนี้
1. กลุ่มพันธุ์ที่ปลูกทางภาคเหนือ เป็นพันธุ์ที่ต้องการความหนาวเย็นมากและยาวนานก่อนการออกดอกมากกว่าพันธุ์ที่ปลูกทางภาคกลาง ได้แก่ ฮงฮวย จักรพรรดิ กิมเจง โอวเฮียะ กวางเจา บริวสเตอร์ และกิมจี๊ เป็นต้น
2. กลุ่มพันธุ์ที่ปลูกในภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตกส่วนใหญ่ต้องการความหนาวเย็นไม่มากและหนาวเย็นไม่นานก็สามารถออกดอกได้ ปลูกในที่ราบต่ำแถวอำเภออัมพวา และอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ได้แก่ พันธุ์ค่อม (ค่อมลำเจียก) กะโหลกใบยาว สำเภาแก้ว กระโถนท้องพระโรง เขียวหวาน สาแหรกทอง จีน ไทยธรรมดา ไทยใหญ่ กะโหลกใบไหม้ กะโหลกในเตา ช่อระกำ และพันธุ์ทิพย์ เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการ

ลิ้นจี่ เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ช่วยย่อยอาหาร บำรุงอวัยวะภายในต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นม้ามหรือระบบประสาท นอกจากนี้ ลิ้นจี่ยังช่วยในการบรรเทาอาการกระหายน้ำได้ และหากนำเนื้อลิ้นจี่ตากแห้งมาต้มรับประทานเป็นประจำก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากโรคไส้เลื่อนหรือลูกอัณฑะบวม และยังช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้อีกด้วย สำหรับผู้มีอาการของท้องร่วงเรื้อรังให้นำเนื้อลิ้นจี่มาต้มรวมกับเนื้อพุทราแล้วนำมากินกับน้ำจะช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงเรื้อรังได้เป็นอย่างดี
การนำไปใช้ประโยชน์

ลิ้นจี่ นอกจากจะใช้รับประทานสดได้แล้ว ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อีกได้หลายชนิด เช่น ลิ้นจี่กระป๋องหรือบรรจุขวดในน้ำเชื่อม เนื้อลิ้นจี่อบแห้ง น้ำลิ้นจี่พร้อมดื่ม ฯลฯ ที่ได้รับความนิยมมากพอสมควร

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

ลองกอง

ผลไม้ไทย
ลองกอง ( Longkong )
ลักษณะ/พันธุ์

ลองกอง เป็นผลผลิตมีคุณภาพดีที่สุด มีเมล็ดน้อยหรืออาจจะไม่มีเมล็ดเลยใบมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก คือมีสีเขียวเข้ม และมีร่องใบลึก ทำให้ดูเหมือนกับว่าใบ หยักเป็นคลื่น ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
ลองกองแห้ง ผลสุกจะมีเนื้อใสเป็นแก้ว เนื้อแห้ง หวานและมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ส่วนเปลือกหนามีสีเหลืองคล้ำและไม่มียาง
ลองกองน้ำ ผลสุกจะมีเนื้อค่อนข้างฉ่ำน้ำ สีเปลือกเหลืองสว่างกว่า
ลองกองปาลาแมหรือลองกองแปร์แมร์ ผลสุกจะมีเนื้อนิ่ม กลิ่นไม่หอมเหมือนลองกองน้ำ เปลือกบางและมียางบ้าง
คุณค่าทางโภชนาการ

ลองกอง เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี และฟอสฟอรัส มีสรรพคุณในการลดความร้อน ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้ ตัวร้อน ลดอาการร้อนในช่องปาก

ชมพู่

ผลไม้ไทย
ชมพู่ ( Java apple )
ลักษณะ/พันธุ์

พันธุ์ชมพู่ ได้แก่ ชมพู่เพชรสุวรรณ ชมพู่เพชรสายรุ้ง ชมพู่เพชรน้ำผึ้ง ชมพู่ทับทิมจันทร์ ชมพู่ทูลเกล้า ชมพู่พันธุ์น้ำดอกไม้
คุณค่าทางโภชนาการ

ในเนื้อชมพู่ 100 กรัม ประกอบด้วยคุณค่าทางอาหาร ได้แก่ พลังงาน 24 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 0.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 5.5 กรัม แคลเซี่ยม 2 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม เหล็ก 0.3 มิลลิกรัม ไวตามินซี 32 มิลลิกรัม
การนำไปใช้ประโยชน์

ชมพู่มีส่วนที่ใช้เป็นยา รสและสรรพคุณยาไทยเอาเนื้อของชมพู่มาทำเป็นยาบำรุงกำลัง ทำให้เกิดความสดชื่นหอม โดยการเอาเนื้อชมพู่แห้งมาบดหรือรับประทานสดก็ได้จะเกิดความสดชื่นขึ้นมาทันทีสามารถนำมาบำรุงหัวใจได้มาก เพราะชมพู่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

ทุเรียน

ผลไม้ไทย
ทุเรียน (Durian) ( King of fruit )
ลักษณะ/พันธุ์
นิยมปลูกกันมากมี 4 พันธุ์ คือ หมอนทอง ชะนี ก้านยาว และกระดุม
คุณค่าทางโภชนาการ
ทุเรียน นอกจากจะมีรสชาติอร่อยมากแล้วยังให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งในด้านไขมันที่ให้พลังงาน โปรตีน คาร์โบไฮเดรตและแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายมากในปริมาณเนื้อทุเรียน 100 กรัม สำหรับพันธุ์ก้านยาวให้พลังงานมากที่สุด คือ 181 กิโลแคลอรี่ ส่วนพันธุ์หมอนทองซึ่งเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่จะให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี่
การนำไปใช้ประโยชน์
ทุเรียน นิยมนำมาทำเป็นขนมหวาน คือ ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียนราดด้วยหัวกะทิ แต่ถ้าคำนึงถึงพลังงานที่ได้รับเพิ่มขึ้นจากข้าวเหนียว น้ำตาล และกะทิ ก็เป็นสิ่งควรระวัง เพราะเนื้อทุเรียนสดก็ให้พลังงานมากอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีทุเรียนกวน ทุเรียนอบแห้ง ทุเรียนทอด ฯลฯ แต่ถ้ารับประทานทุเรียนในปริมาณที่พอเหมาะร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าอย่างเหมาะสม ถ้ารับประทานทุเรียนมากเกินไปในหน้าร้อนอย่างนี้จะมีความรู้สึกร้อนมากกว่าปกติ บางคนจะรู้สึกอึดอัด เพราะพลังงานที่ได้รับมากเกินไปและถ้าใช้พลังงานไม่หมดร่างกายก็จะสะสมเป็นไขมันเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคอ้วนได้

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553

10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง

10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง
กรมอนามัยวิจัย 10 ผลไม้ไทย มีสารต้านมะเร็งสูง นางนัทยา จงใจเทศ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการทำวิจัย “องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และ เบต้าแคโรทีน) ในผลไม้” ที่ทำการศึกษาในผลไม้ 83 ชนิด พบว่า
ผลไม้ 10 อันดับแรกที่มีเบต้าแคโรทีนสูงคือ

1. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 2. มะเขือเทศราชินี
3. มะละกอสุก 4. กล้วยไข่
5. มะม่วงยายกล่ำ 6. มะปรางหวาน
7. แคนตาลูปเนื้อเหลือง 8. มะยงชิด
9. มะม่วงเขียวเสวยสุก 10. สับปะรดภูเก็ต
ผลไม้ทั้งหมดนี้มีเนื้อสีเหลืองและสีเหลืองเข้มส่วนผลไม้ที่ไม่มีเบต้าแคโรทีนเลย
1. แก้วมังกร 2. มะขามเทศ 3. มังคุด 4. ลิ้นจี่ 5. สาลี่
10 อันดับแรกของผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงคือ
1. ฝรั่งกลมสาลี่ 2. ฝรั่งไร้เมล็ด 3. มะขามป้อม 4. มะขามเทศ 5. เงาะโรงเรียน
6. ลูกพลับ 7. สตรอเบอร์รี่ 8. มะละกอสุก 9. ส้มโอขาว 10. แตงกวา 11. พุทราแอปเปิล
การศึกษานี้พบผลไม้ที่มีวิตามินอีสูง 10 อันดับแรกคือ
1. ขนุนหนัง 2. มะขามเทศ 3. มะม่วงเขียวเสวยดิบ 4. มะเขือเทศราชินี 5. มะม่วงเขียวเสวยสุก 6. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 7. มะม่วงยายกล่ำสุก 8. แก้วมังกรเนื้อสีชมพู 9. สตรอเบอร์รี่ 10. กล้วยไข่
ผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอีน้อยทั้ง 3 ตัว คือ สาลี่ องุ่น และแอปเปิล

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553

น้ำผลไม้ไทย

น้ำผลไม้ไทย
การทำน้ำผลไม้ให้มีรสดีต้องทำจากผลไม้ที่สุดไม่เน่าเสีย และควรทำให้มีสภาพคล้ายธรรมชาติมากที่สุด การบรรจุขวดก็มีความสำคัญต้องฆ่าเชื้อด้วยวิธีต้ม หรืออบด้วยไอน้ำทุกครั้ง มิฉะนั้นจะเก็บไว้ได้ไม่นาน
การทำน้ำผลไม้ให้มีรสดีต้องทำจากผลไม้ที่สดไม่เน่าเสีย เพราะน้ำผลไม้สดมีกลิ่นรสชวนดื่มและควรทำให้มีสภาพคล้ายธรรมชาติมากที่สุด การบรรจุขวดเก็บไว้ก็มีความสำคัญ ไม่น้อย ขวดที่ใช้ต้องฆ่าเชื้อด้วยวิธีต้มหรืออบด้วยไอน้ำทุกครั้ง มิฉะนั้นจะเก็บไว้ได้ไม่นาน ถ้ามีผลไม้มากจะลองมา ทำเครื่องดื่มแบบต่างๆ ไว้ใช้ในบ้าน น้ำผลไม้จะรักษารสชาติที่สุดตลอดจนสีที่สดสวยจะต้องไม่ใช้ความร้อนมากจนเกินไป การต้ม หรือให้ความร้อนแก่น้ำผลไม้ภายใต้จุดเดือดของน้ำเป็นเวลานานจะได้กลิ่นรสชาติที่ไม่สด ยกเว้นในกรณี ของน้ำมะเขือเทศ และแอปปริตคอต ซึ่งทนความร้อนได้และไม่เกิดกลิ่นสุก
การที่จะรักษาน้ำผลไม้ให้มีรสชาติ สีและ คุณค่าทางอาหารเหมือนกับน้ำผลไม้สด ควรจะนำน้ำผลไม้มาให้ความร้อนโดยใช้อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือด ของน้ำในกรณีของมะเขือเทศ ซึ่งมีความเป็นกรดน้อยกว่าผลไม้อื่น ๆ จะต้องใช้ความร้อนที่จุดเดือดของน้ำ คือ 212 o ฟ แล้วบรรจุขวดหรือกระป๋องและเก็บเยือกแข็ง ขั้นตอนต่างๆ ในการสกัดน้ำผลไม้และให้ความร้อน แก่น้ำผลไม้เพื่อบรรจุขวด บรรจุกระป๋อง หรือเก็บเยือกแข็ง เป็นไปในทำนองเดียวกัน น้ำผลไม้ที่เก็บโดยวิธีเยือกแข็งนั้น จะให้กลิ่น รสชาติของน้ำผลไม้ดีที่สุด เมื่อเราให้ความร้อนแก่น้ำผลไม้ ในระยะเวลาสั้นๆ ที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดของน้ำแล้วทำให้เย็นจนเกือบแข็ง

“มังคุด ลำไย ลองกอง”ยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ

“มังคุด ลำไย ลองกอง”ยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ
มังคุด...ลองกอง...ลำไย เป็นผลไม้ไทยๆ ที่มีรสชาติอร่อยลิ้น มีประโยชน์มากมาย รวมถึงสรรพคุณทางยาสมุนไพร ในช่วงที่ผลไม้มีปัญหาผลผลิตล้นตลาด ทำให้ราคาแสนถูกอย่างไม่น่าเชื่อ การหันมาบริโภคผลไม้ไทย จึงถือเป็นการได้กำไร 2 ต่อ คือนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว ยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วยอ.สง่า ดามาพงศ์ นักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข บอกถึงคุณประโยชน์ของผลไม้ไทยๆ อย่างมังคุด ลองกอง และลำไยว่า สำหรับ “มังคุด” นั้นเป็น “ราชินีผลไม้” หรือ Queen of fruit เนื่องจากรสชาติของมังคุดอร่อยมาก มีเอกลักษณ์ หอมหวาน แต่ไม่หวานจัด แบบอมเปรี้ยวอมหวาน รสชาติกินขาดผลไม้ทุกชนิด ขณะที่คุณประโยชน์ทางสารอาหารก็มีวิตามินซีสูง ช่วยต้านมะเร็งไม่ให้เกิดอนุมูลอิสระ และมีแคลเซียมซึ่งปกติมีมากในนม เนื้อสัตว์ ในผลไม้ไม่ได้มีมากมายแต่มีในมังคุด อีกทั้งยังมีฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ช่วยให้เผาผลาญพลังงานได้เป็นปกติแต่ที่โดดเด่นมากที่สุด คือ ในมังคุดมีไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหาร หากอาหารไม่ย่อยหรือดูดซึม เมื่อรับประทานมังคุดเส้นใยอาหารตัวนี้ก็จะไปเกาะเป็นก้อนอมน้ำมีน้ำหนัก ดึงเอาสารก่อมะเร็งในไขมัน น้ำตาล ที่อยู่ระหว่างมื้อออกไปทางอุจจาระ ดังนั้น หากใครที่ท้องผูกเป็นประจำหรืออยากลดน้ำหนักจึงขอแนะนำให้กินมังคุดส่วนลองกองและลำไยนั้น อ.สง่า ชี้ให้เห็นความแตกต่างกับมังคุดว่า ลองกองจะมีวิตามินสูงกว่ามังคุด มีไฟเบอร์ แคลเซียม คล้ายมังคุด แต่มีเสน่ห์ที่เนื้อใส รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ขณะที่ลำไย นอกจากมีรสหวานกรอบแล้ว ยังมีแคลเซียมสูงกว่าเมื่อเทียบมังคุดและลองกอง อีกทั้งให้พลังงานสูงกว่าผลไม้อีก 2 ชนิดด้วยอย่างไรก็ตามในการกินลำไยซึ่งเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลมากกว่าผลไม้ทั้ง 2 ชนิด การกินลำไย จึงต้องระวังสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เป็นเบาหวาน อ้วนลงพุง แต่ในคนที่มีสุขภาพปกติสามารถกินลำไยได้ แต่ก็ไม่ควรกินมากจนเกินไป

ไวน์เพื่อสุขภาพ

ไวน์ผลไม้เพื่อสุขภาพ
ไวน์ หรือเหล้าองุ่น เป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการหมักผลองุ่นโดยเชื้อยีสต์มีแอลกอฮอล์ประมาณ 7-15 เปอร์เซ็นต์ อาจมีสีแดง ชมพู และขาว การหมักไวน์ผลไม้อื่นๆ นอกจากองุ่น ไวน์ที่ได้จะเรียกชื่อเป็นไวน์ผลไม้นั้นๆ เช่น ทำจากสับปะรด เราก็เรียกว่า ไวน์สับปะรด ทำจากกระท้อน เราก็เรียกว่า ไวน์กระท้อน เป็นต้น
ในปัจจุบันการผลิตไวน์จากผลไม้ต่างๆ มีมากมายหลายชนิดที่ให้กลิ่นหอมและรสชาติแตกต่างกันไป ผลไม้ไทยหลายๆ ชนิดมีคุณสมบัติในการรักษาโรคและบำรุงร่างกาย โดยภูมิปัญญาคนไทยจัดไว้ในตำรายาไทยโบราณ เมื่อนำผลไม้มาหมักเป็นไวน์ผลไม้ก็จะได้เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่มีแอลกอฮอล์เล็กน้อย ใช้ดื่มวันละ 1-2 แก้วจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและเพื่อสุขภาพ เพราะไวน์มีแอลกอฮอล์เป็นตัวพาสารอาหารที่มีคุณค่าต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย บางชนิดมีสารต้านทานเชื้อจุลินทรีย์บางอย่างได้ บางชนิดมีประโยชน์ในการลดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด หรือช่วยป้องกันเลือดภายในหลอดเลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม เป็นต้น
รสชาติของไวน์แบ่งเป็น 2 รส คือ ชนิดหวาน (sweet wine) และชนิดไม่หวาน (dry wine)
ไวน์จำแนกออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 4 ประเภท ดังนี้
- ไวน์นิ่ง (still wine) เป็นไวน์ที่ไม่มีฟอง มี 3 ชนิด คือ ไวน์ขาว (white wine) ไวน์แดง (red wine) และไวน์สีชมพู (rose wine)
- ไวน์มีฟอง (sparkling wine) เป็นไวน์ที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เจือปนอยู่
- ไวน์ดัดแปลง (fortified wine) เป็นไวน์ชนิดไม่มีฟอง แต่มีเหล้าหรือบรั่นดี ปรุงแต่งให้มีแอลกอฮอล์สูงขึ้นถึง 8-23 ดีกรี
- ไวน์ปรุงแต่งรส (aromatized wine) เป็นไวน์ชนิดไม่มีฟอง แล้วปรุงแต่งด้วยเหล้าหวานเข้มข้น และเครื่องเทศสมุนไพร มีแอลกอฮอล์ 18-23 ดีกรี

ผลไม้ไทยเพื่อสุขภาพ

ผลไม้ไทยเพื่อสุขภาพและเศรษฐกิจ
สิ่งที่วิเศษอย่างหนึ่งในโลกคือผลไม้ไทย ชาวต่างประเทศที่มาประเทศไทยต่างพากันชื่นชม ความชื่นชมในผลไม้ไทยย่อมเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีมากกว่าความเปรมปรีดิ์ในโสเภณีไทย เพราะการมีผลไม้ที่ดีหมายถึงธรรมชาติที่ดี วัฒนธรรม วิทยาการ และสุนทรียะ ซึ่งล้วนแล้วคือธรรมะบางท่านถึงกับกล่าวว่าประเทศไทยเป็นมหาอำนาจทางผลไม้ ขณะที่เศรษฐกิจเรายับเยินในเรื่องข้าว น้ำตาล มันสำปะหลัง ยาง และดีบุก แต่ช่องทางเศรษฐกิจในเรื่องผลไม้ยังมีอีกมากผลไม้วิตามินซี ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก และผลไม้บางชนิดยังมีสารป้องกันมะเร็ง มีกากที่ป้องกันท้องผูกลดมะเร็งในลำไส้ใหญ่และริดสีดวงทวารเราควรส่งเสริมการกินผลไม้ไทย ทั้งโดยการกินตามธรรมชาติ และโดยทำน้ำผลไม้ การทำน้ำผลไม้นั้นควรทำทั้งโดยค้นคว้าเผยแพร่วิธีทำที่แต่ละบ้านจะทำได้เอง รวมทั้งโรงงานน้ำผลไม้ขนาดเล็กของชุมชน และโรงงานขนาดใหญ่คนไทยควรกินน้ำผลไม้ไทยเพื่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าเครื่องดื่มทั้งหลายที่ไปเอาหัวเชื้อและส่วนประกอบมาจากต่างประเทศควรรณรงค์ส่งเสริมการทำและบริโภคน้ำผลไม้ไทย เพื่อเศรษฐกิจของชาติไทย

ประโยขน์จากผลไม้

ประโยชน์ของผลไม้
มีมากมาย โฮม เฟรช มาร์ท เดอะมอลล์ ทุกสาขา และกูร์เม่ต์ มาร์เก็ต เอ็มโพเรี่ยม พารากอน จึงจัดงาน "The 9th Bangkok Fruits Fast : King & Queen of Fruit" รวบรวมผลไม้หลากหลายชนิด มาจัดแสดงและให้ผู้มาร่วมงานได้ลองลิ้มชิมรสกันอย่างจุใจ ไฮไลต์ของงานได้นำ "ทุเรียนและมังคุด" ผลไม้ที่ได้รับการยอมรับจากสากลโดยถูกยกย่องให้เป็นสุดยอด "ราชาและราชินีแห่งผลไม้" มาจัดแสดงและจำหน่ายมากกว่า 20 สายพันธุ์ นอกจากนี้ ภายในงานยังได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานผลไม้ตามธาตุให้สมดุลกับร่างกายด้วย
"ธาตุไฟ" ด้วยลักษณะความเป็นผู้นำ ชอบช่วยแก้ปัญหา เพราะเป็นคนมีวิสัยทัศน์อันน่าทึ่ง และชอบที่จะคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา มีสีและผลไม้เสริมธาตุคือ "สีแดง" ควรรับประทานผลไม้ เช่น มะละกอ แตงโม แตงไทย ชมพู่ องุ่น
"ธาตุดิน" เป็นผู้ที่มีพลังแห่งความเอื้ออาทรเต็มเปี่ยม การเลือกใช้พลังแห่งธาตุดิน จะทำให้คุณได้รับความมั่นคง มีเหตุผล สีและผลไม้เสริมธาตุคือ "สีเหลือง" เช่น กล้วย มะม่วงสุก มะละกอสุก ลำไย ทุเรียน มะเฟือง ส้ม มะปราง
"ธาตุโลหะ" หรือ "ธาตุทอง" จะโดดเด่นหรูหราและไม่เป็นสองรองใคร ชอบการรื่นเริงสังสรรค์ ชอบที่จะอยู่ท่ามกลางผู้คน สีและผลไม้เสริมธาตุ คือ "สีขาว" ควรรับประทาน น้อยหน่า มะพร้าว มังคุด ลูกตาลอ่อน ลองกอง ลิ้นจี่ เงาะ มะปราง
"ธาตุน้ำ" เป็นผู้ที่มีสัญชาตญาณไม่หยุดนิ่ง ฉลาดหลักแหลม ทันคน สีและผลไม้เสริมธาตุ คือ "สีน้ำเงิน" เช่น ลูกหว้า องุ่น มะม่วงดิบ ลางสาด ส้มเขียวหวาน สับปะรด
"ธาตุลม (ไม้)" เป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของการเติบโต แข็งแกร่ง มุ่งมั่น และรักความก้าวหน้า มีสีและผลไม้เสริมธาตุคือ "สีเขียว" เช่น ชมพู่ มะเฟือง ฝรั่ง แตงโม แตงไทย องุ่นร่วมลองลิ้มชิมรสผลไม้นานาชนิดได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 พฤษภาคม ที่โฮม เฟรช มาร์ท เดอะมอลล์ทุกสาขา และกูร์เม่ต์ มาร์เก็ต เอ็มโพเรี่ยม และพารากอน

คุณค่าทางโภชนาการ ผลไม้ไทย

ผลไม้ไทย
มังคุด ( Mangosteen ) ( Queen of fruit )
ในบรรดาผลไม้ทั้งมวล ผลไม้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชาของผลไม้" ก็คือ "ทุเรียน" ด้วยทั้งลักษณะภายนอกของผลที่เป็นหนามคล้ายมงกุฎของพระราชา และเนื้อในที่มีรสชาติที่แสนอร่อยที่ยากจะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้ขณะเดียวกัน ในบรรดาผลไม้ทั้งมวลผลไม้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชินีของผลไม้" ก็คือ "มังคุด" ด้วยลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบเลี้ยงติด อยู่ที่หัวขั้วของผลคล้ายมงกุฎของพระราชินีส่วนเนื้อในก็มีสีขาวสะอาด มีรสชาติที่แสนหวาน อร่อยอย่างยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้เช่นเดียวกันจำนวนของเนื้อสีขาวภายในผลมังคุดนี้จะมีจำนวนเทากับกลีบ ดอกสีแดงที่เหลือติดอยู่ด้านล่างภายนอกของผล
ลักษณะ/พันธุ์
มังคุดที่ปลูกในประเทศไทยมีพันธุ์เดียว เรียกกันว่าเป็นพันธุ์พื้นเมือง เพราะเพาะเมล็ด และเมล็ดมังคุดไม่ได้เกิดจากการผสมเกสรจึงแทบจะไม่มีโอกาสกลายพันธุ์เลย เนื่องจากเกสรตัวผู้ของดอกมังคุดเป็นหมัน เมล็ดจึงเจริญจากเนื้อเยื่อของต้นแม่โดยไม่ได้รับการผสมเกสร ดังนั้นจึงเชื่อกันว่ามังคุดมีพันธุ์เดียว แม้จะพบว่ามังคุดสายพันธุ์จากเมืองนนท์มีผลเล็กและเปลือกบาง มังคุดภาคใต้เปลือกหนาแต่ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนพอที่จะแยกเป็นพันธุ์ได้
คุณค่าทางโภชนาการ
การบริโภคมังคุด ทำให้เราได้บริโภคกากใยจากเนื้อของมังคุดด้วย ซึ่งจะช่วยในการขับถ่าย และยังได้สารอาหารวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ประโยชน์ของมังคุดมิได้มีอยู่แค่เนื้อในของมังคุดที่เราใช้เป็นอาหารเท่านั้น เปลือกมังคุดก็มีสรรพคุณเป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วงเรื้อรัง ถ่ายเป็นมูกเลือด โดยการใช้เปลือกสดหรือเปลือกแห้งฝนกับน้ำรับประทานหรือจะใช้เปลือกแห้งต้มกับน้ำรับประทานก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
การนำไปใช้ประโยชน์
ปัจจุบันวงการเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้ให้ความสนใจนำสารสกัดจากเปลือกมังคุดไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่เปลือกมังคุด ที่ช่วยดับกลิ่นเต่า ช่วยบรรเทาโรคผิวหนัง รักษาสิวฝ้า ซึ่งใช้ได้ผลดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค เมื่อได้ลิ้มรสของเนื้อในของมังคุดอย่างอิ่มเอมแล้วก็อย่าได้ทิ้งขว้างเปลือกมังคุดให้เป็นขยะเน่าเหม็นโดยเปล่าประโยชน์เลย เปลือกมังคุดยังมีสรรพคุณในการสมานแผล ช่วยให้แผลหาเร็ว เช่นใช้รักษาบาดแผลผุพอง แผลเน่าเปื่อย แผลเป็นหนอง โดยการใช้เปลือกมังคุดฝนกับน้ำปูนใสทาบริเวณแผล น้ำต้มเปลือกมังคุดแห้งต้มน้ำล้างแผลใช้แทนการด้วยน้ำยาล้างแผลหรือด่างทับทิมได้ด้วยเพราะเปลือกมังคุดนี้มีสารแทนนิน (Tannin) และสารแซนโทน (Xanthone) ที่มีชื่อเรียกเฉพาะชื่อเดียวกับมังคุดว่า สารแมงโกสติน (mangostin) สารแทนนินมีฤทธิ์สมานแผลช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สารแมงโกสตินมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง สารแซนโทนในเปลือกมังคุดยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังและกลากได้อีกด้วย

มังคุด ราชินีผลไม้ไทย

มังคุด” ราชินีผลไม้ไทยอุดมประโยชน์
น่าตกใจไม่น้อยกับข้อมูลที่ว่า ชาวไทยเสียชีวิตเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คนจากโรคมะเร็ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากสิ่งที่เรียกว่า “อนุมูลอิสระ” ซึ่งต้นตอของอนุมูลอิสระนั้นมีอยู่ทั้งภายนอกและภายในร่างกายของคนเรา
ภายนอกก็ได้แก่ มลพิษในอากาศ ควันบุหรี่ แสงแดด คลื่นความร้อน ฯลฯ ส่วนสารอนุมูลอิสระที่อยู่ภายในก็คือ กระบวนการเผาผลาญออกซิเจนในเซลล์ การย่อยทำลายเชื้อแบคทีเรียของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
จากการวิจัยพบว่าสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินอี วิตามินซี และเบตาแคโรทีน ทั้งสามตัวสามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้ โดยวิตามินซีซึ่งละลายน้ำจะทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระในเซลล์ที่เป็นของเหลว ป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกอนุมูลอิสระทำลาย
ส่วนวิตามินอีละลายในไขมัน ช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ ส่วนวิตามินเอซึ่งละลายได้ในไขมัน และอยู่ในรูปของเบตาแคโรทีน หรือแคโรทีนอยด์นั้นมีอยู่ในอาหารธรรมชาติกว่า 600 ชนิด ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการกลายพันธุ์ของเซลล์ ป้องกันเนื้องอก และมีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพด้านอื่นๆ เช่น ลดความเสี่ยงการเสื่อมของตา เนื่องจากสูงอายุ ลดการเกิดต้อกระจก โรคหัวใจ และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี

การทำไวน์จากผลไม้ไทย

การทำไวน์จากผลไม้ไทย
ไวน์ หมายถึง เครื่องดื่มที่ได้จากการหมักผลไม้ เช่น องุ่นทำให้เกิดแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ไวน์มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 19 เมื่อมีการค้นพบว่าเชื้อราขนาดเล็กหรือ ยีสต์ สามารถเปลี่ยนน้ำตาลในผลไม้ให้เป็นแอลกอฮอล์ได้โดยมีปฏิกิริยาค่อนข้างซับซ้อน ผลไม้ที่นำมาผลิตเป็นไวน์ในยุกแรกคือองุ่น เนื่องจากการหมักน้ำองุ่นให้เป็นไวน์นั้นเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ
โดยยีสต์ที่เกาะอยู่บนผิวองุ่นจะทำให้น้ำองุ่นกลายเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นจึงมีการเติมยีสต์เพิ่มเข้าไปเพื่อช่วยกระบวนการหมัก ไวน์แดงทำจากองุ่นแดงที่หมักเชื้อที่อุณหภูมิ 21-29 องศาเซลเซียส นาน 2 สัปดาห์ ส่วนไวน์ขาวซึ่งทำมาจากองุ่นขาว จะหมักเชื้อที่อุณหภูมิ 10-15 องศาเซลเซียส นาน 3-6 สัปดาห์ โดยใช้ขั้นตอนการผลิต จะทำโดยสกัดน้ำผลไม้ใส่ลงในถังหมัก เมื่อได้ที่แล้วจึงกรองตะกอนออกแล้วนำไปบรรจุขวดต่อไป รสชาติของไวน์ นอกจากขึ้นกับตัวผลไม้แล้วยังขึ้นกับขั้นตอนและเวลาการหมักด้วย
ปัจจุบันมีการประยุกต์ใช้ผลไม้อย่างอื่นแทนองุ่น เช่นในเมืองไทยมีการผลิตไวน์มังคุด ไวน์กระเจี๊ยบ ฯลฯ ซึ่งสามารถทำได้โดยรสชาติอาจแตกต่างจากไวน์องุ่นซึ่งเป็นต้นตำรับ
การผลิตไวน์ผลไม้ไทย โดยทั่วไปเริ่มจากการเตรียมน้ำผลไม้ โดยต้องแยกเอาวัตถุดิบ ที่เสียหรือมีตำหนิ แยกส่วนก้านใบและเมล็ดออก คงเหลือไว้แต่น้ำผลไม้ เนื้อผลไม้ เปลือก การบีบคั้นอาจจะใช้วิธีธรรมดาหรือใช้ความร้อนเข้าช่วย เช่น ระกำเป็นผลไม้ที่มีน้ำน้อย ต้องใช้วิธีการสกัดเอาน้ำ ส่วนมังคุดสามารถ บีบเอาน้ำออกมาได้เลย น้ำผลไม้ที่ได้จะนำมาเตรียมเพื่อผสมส่วนอื่นต่อไป ควรเก็บในภาชนะที่สะอาดและมีฝาปิดมิดชิด การผลิตไวน์ที่ดีควรมีการตรวจสอบปริมาณน้ำตาล และกรดในวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตเสียก่อน เพราะผลไม้แต่ละชนิดในแต่ละฤดูกาลจะมีองค์ประกอบของน้ำตาลและกรด ที่แตกต่างกัน ระดับความหวานถ้ามากหรือน้อยเกินไป จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อยีสต์ เมื่อปรับความเป็นกรด เติมความหวานและมีสารอาหารเพียง พอแล้ว ก่อนเติมเชื้อยีสต์ลงไปทำการหมักต้องผ่านการฆ่าเชื้อเสียก่อน จากนั้นเป็นการเตรียมเชื้อเริ่มต้นเพื่อต้องการให้ยีสต์มีการแบ่ง ตัวเป็นจำนวนมาก ทำให้การหมักมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้ไวน์ดีมีคุณภาพ

ผลไม้ไทย

ผลไม้ไทยเคลือบชอล์กโกแลต Fruit chocs
ผลไม้ไทยถือเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศ และด้วยความที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผลไม้รสชาติดีหลายชนิด ทำให้เราได้มีผลไม้สดอร่อยไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจำนวนมาก จนถึงปัจจุบันมีผลไม้ไทยที่ไปสร้างชื่อในต่างประเทศ สร้างรายได้กับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้เป็นเงินมหาศาล

สำหรับการส่งออกผลไม้ของผู้ประกอบการไทย จะมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกผลไม้สด ซึ่งมีข้อจำกัดหลายอย่าง อาทิ ผลไม้เกิดการเน่าเสียระหว่างการขนส่ง ทำให้ผลไม้ ไม่สดอร่อย หรือ เชื้อราที่ปนเปื้อนอยู่ในผลไม้ ผู้ประกอบการบางรายหันมาใช้การส่งออกผลไม้ในรูปของผลไม้แช่แข็ง

ผลไม้ไทย 30 ชนิด มีฤทธิ์ทำลายตัวก่อโรคมะเร็ง

ผลไม้ไทย 30 ชนิด มีฤทธิ์ทำลายตัวก่อโรคมะเร็ง
กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ขณะนี้คนไทยกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับสารอนุมูลอิสระ เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการอักเสบ การทำลายเนื้อเยื่อ เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด
ทั้งนี้สารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี และเบต้าแคโรทีน ซึ่งสามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้ โดยวิตามินซี ซึ่งละลายน้ำได้ ทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระในเซลล์ที่เป็นของเหลว ป้องกันการถูกอนุมูลอิสระทำลาย ส่วนวิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน จะช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระได้ และวิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันที่อยู่ในรูปของเบต้าแคโรทีน หรือแคโรทีนอยด์ ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ป้องกันเนื้องอก และมีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพด้านอื่นๆ ได้แก่ ลดความเสี่ยงเกี่ยวกับการเสื่อมของตา เนื่องจากสูงอายุ และต้อกระจก รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิดและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างดี